รมว.แรงงาน หวั่นหวาดสถานประกอบการ ยังไม่ทราบ “โครงงานเกื้อหนุนและก็รักษาระดับการว่าจ้างในธุรกิจ SMEs” ถ้าเกิดสมัครสมาชิกตามที่กำหนดไม่ทัน ภายใน 20 พ.ย. 64 จะมิได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ 3000 บาท ต่อหัวต่อเดือน
นายสุชาติ ดูกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวมาว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ทำโครงงานเกื้อหนุนและก็รักษาระดับการว่าจ้างในธุรกิจ SMEs เปิดสมัครสมาชิกผ่านเว็บไซต์ “เกื้อหนุนการว่าจ้างเอสเอ็มอี.doe.go.th” ตั้งแต่วันที่ 20 เดือนตุลาคม 64 – 20 พ.ย. 64 ปัจจุบันมีสถานประกอบการสมัครสมาชิกร่วมโครงงาน 169,096 ราย หรือปริมาณร้อยละ 42.84 ช่วยรักษาระดับการว่าจ้างผู้รับจ้างสัญชาติไทย 2,536,686 คน หรือปริมาณร้อยละ 62.90 ซึ่งเหลือช่วงเวลาสมัครสมาชิกร่วมโครงงานเพียงแค่ 4 วันเพียงแค่นั้น ถ้าเกิดไม่ทำงานตามช่วงเวลาที่กำหนดจะก่อให้ผู้ว่าจ้าง สถานประกอบการ เสียสิทธิที่จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ในอัตรา 3,000 บาทต่อผู้รับจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในพฤศจิกายน 2564 – ม.ค. 2565
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกรัฐมนตรี และก็พล.อ.ประวิตร วงษ์กาญจน์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบคุมดูแลกระทรวงแรงงาน ตั้งใจที่จะขจัดปัญหาเศรษฐกิจ และก็สังคมที่ได้รับผลพวงจากการแพร่ระบาดของโรค วัววิด -19 โดยได้อนุมัติโครงงานเกื้อหนุนและก็รักษาระดับการว่าจ้างในธุรกิจ SMEs ภายใต้กรอบวงเงิน 37,506,414,000 บาท เพื่อผู้ว่าจ้างสามารถรักษาระดับการว่าจ้าง ทำให้ผู้รับจ้างสัญชาติไทยในธุรกิจ SMEs ผิดเลิกจ้างตามเงื่อนไขโครงงานฯ มีรายได้ดูแลตัวเองและก็ครอบครัว ทั้งผู้ว่าจ้าง สถานประกอบการ ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง นำไปฟื้นฟูกิจการค้า และก็สร้างความแข็งแรงในธุรกิจให้ดำเนินกิจการได้ตลอด ซึ่งผมห่วงใยผู้ว่าจ้าง สถานประกอบการบางส่วนที่ยังไม่ทราบโครงงานฯ เดี๋ยวนี้ก็มอบหมายกรมการจัดหางานเร่งโทรแจ้งผู้ว่าจ้างในเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบทีละราย เพื่อรับทราบข้อมูลและก็มาสมัครสมาชิกทันตามกำหนด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
ด้านนายรุ่งโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน บอกว่า กรมการจัดหางานรับข้อออกคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดี๋ยวนี้มอบหมายข้าราชการและก็ข้าราชการจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-10 และก็สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ ติดตามผู้ว่าจ้าง สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนที่ตั้งบริษัทในเขตพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลโครงงานฯ และก็เร่งรัดให้สมัครสมาชิกภายในตั้งเวลา ซึ่งพบว่าส่วนมากที่ยังไม่เคยทราบข้อมูลโครงงานและก็ยังไม่สมัครสมาชิกมักเป็นผู้ว่าจ้างในธุรกิจขนาดเล็กที่มีการว่าจ้าง 3 – 4 คน
สมัครสมาชิก SME เกื้อหนุนการว่าจ้างเอสเอ็มอี.doe.go.th ตรงนี้
“สำหรับผู้ว่าจ้าง/สถานประกอบการภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม และก็มีลูกว่าจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน สามารถสมัครร่วมโครงงาน ผ่านเว็บไซต์ “เกื้อหนุนการว่าจ้างเอสเอ็มอี.doe.go.th” เพื่อวิเคราะห์คุณลักษณะ เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จำเป็นต้องสมัครใช้บริการระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลการส่งเงินสมทบ สำนักงานประกันสังคม 1-10 ในระบบ e-Sevice ก็เลยจะได้รับเงินอุดหนุนจากโครงงานนี้ ในเรื่องที่ผู้ว่าจ้างไม่อาจจะสมัครสมาชิกร่วมโครงงานฯผ่านระบบด้วยตัวเอง สามารถนำเอกสารซึ่งมี หนังสือมอบอำนาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบฉันทะและก็ผู้รับมอบอำนาจ สำเนาหน้าสมุดแบงค์ (กรณีใช้บัญชีเดินสะพัด ให้ใช้สมุดหน้าเช็คที่มีชื่อผู้ว่าจ้างและก็เลขบัญชี) และก็สำเนาใบรับรองการจะทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ว่าจ้างบุคคลปกติ) โดยลงลายมือชื่อการันตีสำเนาถูกทุกฉบับ ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัดกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 เพื่อข้าราชการทำงานให้ หรือถ้าเกิดอยากไต่ถามข้อมูลเพิ่มเติมให้ติดต่อที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว